เนย์มาร์ หัวหอกคนดังของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โพสต์ยาวเหยียดในเชิงขอร้องให้ทุกฝ่ายเลิกแสดงพฤติกรรมเชิงเหยียด พร้อมสวน อัลบาโร่ กอนซาเลซ คู่กรณีของเขาว่าเจ้าตัวรู้ดีว่าพูดอะไรออกไป

    เนย์มาร์ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรมหาเศรษฐีแห่งวงการ ลีก เอิง ฝรั่งเศส แถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดแสดงพฤติกรรมเชิงเหยียด หลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งตกเป็นประเด็นร้อนในเรื่องดังกล่าว

    ในเกมลีกนัดที่ "เปแอสเช" แพ้ โอลิมปิก มาร์กเซย 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา มันเกิดประเด็นร้อนขึ้นเมื่อในช่วงท้ายเกมนักเตะของทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงจนสุดท้ายมีคนโดนไล่ออกจากสนามถึง 5 คน ซึ่ง เนย์มาร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่เขาเหมือนจะไปตบด้านหลังศีรษะของ อัลบาโร่ กอนซาเลซ กองหลัง มาร์กเซย ก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลากันอย่างดุเดือด

ทั้งนี้ เนย์มาร์ ชี้แจงในภายหลังว่าสาเหตุที่เขาโกรธจัดเป็นเพราะ กอนซาเลซ แสดงพฤติกรรมเชิงเหยียดใส่ตน โดยถึงขั้นบอกด้วยว่าเสียดายที่ไม่ได้ต่อยหน้าคู่กรณี ขณะที่ดาวเตะชาวสแปนิชก็แก้ต่างว่าตนไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย พร้อมกับพูดในเชิงที่บอกว่า เนย์มาร์ ควรจะยอมรับความพ่ายแพ้ดีกว่ามาหาทำตัวเกเร

เนย์มาร์ กล่าวบน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่า "เมื่อวานนี้ผมได้ทำการต่อต้านกับบางอย่าง ผมถูกลงโทษด้วยการโดนใบแดงเพราะผมอยากทำร้ายร่างกายคนที่ว่าร้าใส่ผม ผมคิดว่าผมไม่ควรจะเดินจากมาโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เพราะผมรู้ดีว่าพวกคนที่มีอำนาจน่ะจะไม่ลงมือทำอะไร, ไม่รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และเมินเฉยต่อข้อเท็จจริง ระหว่างการแข่งขันผมอยากตอบโต้ด้วยการเล่นฟุตบอลเหมือนที่ทำอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นว่าผมทำไม่สำเร็จ สุดท้ายผมก็ตอบโต้ไป"

"ในกีฬาของเรานั้น ความก้าวร้าว, การด่า และการสบถมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน, เป็นส่วนหนึ่งของการโต้เถียงกัน แน่นอนว่าคุณไม่ควรลุ่มหลงกับเรื่องเหล่านั้น ผมเข้าใจชายคนนี้ในบางด้าน ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน แต่พฤติกรรมเชิงเหยียดและการไม่ยอมรับความแตกต่างมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้"

    "ผมเป็นคนผิวสี, ผมเป็นลูกชายของคนผิวสี รวมถึงยังเป็นหลานและเหลนของคนผิวสีด้วย ผมภาคภูมิใจกับเรื่องนั้น และไม่คิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น เมื่อวานนี้ผมอยากให้คนที่มีอำนาจในการแข่งขัน (กรรมการกับผู้ช่วยกรรมการ) แสดงจุดยืนว่าพวกเขามีความยุติธรรมและเข้าใจว่ามันไม่ควรมีทัศนคติแบบลำเอียงอีกต่อไป"



 "เมื่อได้สะท้อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และได้เห็นการแสดงออกต่างๆ หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นแล้วนั้น ผมก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เรามาทะเลาะกันจนกลายเป็นว่าเราอาจจะกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังต่อกัน ผมควรจะเมินเฉยต่อมันรึเปล่างั้นหรือ ­ ตอนที่มันเกิดเรื่องนั้นขึ้นใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างนั้นรึเปล่า การที่ปัจจุบันผมใจเย็นแล้วทำให้ตอนนี้ผมคงบอกว่าผมควรจะเมินต่อมัน แต่ตอนที่มันเกิดเรื่องนั้นในสนามน่ะเพื่อนๆ ของผมกับผมไปขอความช่วยเหลือจากกรรมการ แต่พวกเขาก็เมินเฉยต่อมัน นั่นคือประเด็นที่สำคัญ!"



เพิ่มเติม : manelmakeup.com