วันนี้ (21 ต.ค.2565) จากกรณีที่หนุ่มนักวิ่งเกิดอาการวูบหมดสติขณะซ้อมวิ่ง แต่มีคนช่วยปฐมพยาบาลจนฟื้นขึ้นมา ผ่านไปไม่กี่วันเกิดอาการวูบอีกครั้ง ก่อนที่จะเสียชีวิตลง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Akanis Srisukwattana โดยระบุ โรควูบอันตรายถึงชีวิต ฝากถึงนักกีฬาและบุคคลทั่วไปที่ออกกำลังกายอาการวูบขณะออกกำลังกายให้ถือว่าเป็นความผิดปกติที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
การวูบเป็นลมส่วนใหญ่จะมาจากการออกกำลังกายที่หนักเกินไปนานไป แต่ส่วนน้อยมาจากการมีโรคซ่อนโดยเฉพาะโรคหัวใจและโรคสมองที่อันตรายมาก ๆ
ดังนั้นเมื่อไหร่ที่วูบหรือจะวูบ วูบหมายถึงหมดสติ จอดับไม่รู้ตัว อาการหน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่า ไม่นับเป็นวูบต้องพบแพทย์ ยิ่งเร็วยิ่งดีตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีโรคอันตรายซ่อนอยู่ ก่อนที่จะออกกำลังครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถแยกเองได้ 100% ว่าวูบจากออกกำลังหนักหรือวูบจากมีโรคซ่อน การวูบ หน้ามืด เจ็บหน้าอก ขณะแข่ง ไม่มีการนั่งพักให้หายแล้วไปต่อ การแข่ง คุณในวันนั้นจบลงแล้ว
และต้องบอก เพื่อนนักวิ่ง บอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อไป รพ. ตรวจรักษา หาสาเหตุเพราะโรคบางอย่างอาจเป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วน
อาการวูบ ต้องตรวจให้แน่นอนว่าไม่มีอะไรซ่อน ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี ถ้ายังไม่ตรวจอย่าพึ่งไปออกกำลังเพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน
ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจการออกโซนสูง ๆ ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยตรง ถ้าคนนั้นไม่มีโรคซ่อนอยู่ ออก โซนสูงก็แค่เหนื่อยล้า เมื่อยกล้ามเนื้อแต่ไม่ทำให้เสียชีวิตกลับกันการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน
สำคัญคือต้องคัดกรองว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหมและควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือนเหล่านี้เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลม
as8807.net