[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
น้ำผึ้ง ทานน้อยๆประโยชน์เพียบ ทานมากมีโทษตาม  VIEW : 295    
โดย หยาดฟ้า

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 795
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 22
Exp : 88%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 27.55.81.xxx

 
เมื่อ : เสาร์์ ที่ 24 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 22:53:41    ปักหมุดและแบ่งปัน

ใครๆ ก็ทราบดีว่า “น้ำผึ้ง” ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ด้วยรสชาติหวานจัด ทำให้หลายๆ คนกังวลว่า ทานมากไปจะเป็นโรค “เบาหวาน” หรือไม่ หรืออาจจะมีโรคภัยอื่นๆ ตามมาหรือเปล่า Sanook! Health จึงมีคำตอบจากรายการ “Did You Know? คุณรู้หรือไม่” มาฝากกันค่ะ

น้ำผึ้ง กับน้ำตาลทราย ต่างกันหรือไม่?

จริงๆ แล้วหลายคนคิดว่า น้ำผึ้งเป็นอาหารที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ น่าจะดีกว่าน้ำตาลทรายขาวที่ผลิตขายกันตามท้องตลาด แต่ที่จริงแล้ว น้ำผึ้งก็ถือว่าเป็นน้ำตาลเช่นกันค่ะ ในทางเคมี น้ำผึ้งมีสารประกอบหลักๆ ที่เหมือนกันกับน้ำตาลทราย คือ “กลูโคส” และ “ฟรุกโตส” ต่างกันตรงที่น้ำตาลทรายเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ ขณะที่น้ำผึ้งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งหมายความว่า ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังให้แคลอรี่สูงกว่าอีกด้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ให้พลังงานประมาณ 22 แคลอรี่ ส่วนน้ำตาลทรายขาวในปริมาณเท่ากัน จะให้พลังงานประมาณ 16 แคลอรี่ แต่น้ำผึ้งให้ความหวานมากกว่า เราเลยใช้ปริมาณน้ำผึ้งในการประกอบอาหารต่างๆ น้อยกว่า

น้ำผึ้ง ควรทานในปริมาณเท่าไรต่อวัน

จริงๆ แล้วยังไม่มีจำนวนระบุเอาไว้แน่นอนว่าเท่าไรถึงจะเหมาะสมสำหรับทุกคนนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ อาหาร และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วย แต่หากจะให้แนะนำว่าทานเท่าไรถึงจะปลอดภัย ก็ประมาณ 6 ช้อนชา หรือ 2 ช้อนโต๊ะ หรือหากมากกว่านี้ก็ไม่ควรเกิน 10 ช้อนชาค่ะ เนื่องจากว่าในแต่ละวัน เราจะต้องได้รับน้ำตาลจากอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม และขนมต่างๆ อีกด้วย

วิธีทานน้ำผึ้งให้อร่อย และได้ประโยชน์

1. ผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่ม 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชม. และก่อนเข้านอน
2. ทานเหมือนเป็นสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น ใส่ลงไปในเครื่องดื่ม ชา น้ำผลไม้ หรือทานบนขนมปังแทนแยม เป็นต้น

โทษของการทานน้ำผึ้งมากเกินไป คือ

1. อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสียได้ เนื่องจากมีน้ำตาลฟรุกโตสอยู่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมในลำไส้
2. น้ำผึ้งยังไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
3. ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรดื่มน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งอาจมีสปอร์ของเชื้อโรค ที่อาจทำให้เป็นโรคโบทูลิซึ่มได้ (โรคผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นเฉียบพลันจากการรับพิษ Botulinum toxin)

ทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่ชอบน้ำผึ้งก็ยังทานกันได้อยู่ และยังได้รับประโยชน์จากน้ำผึ้งกันไปเต็มๆ ไม่ต้องกลัวโรคอะไรร้ายแรงนะคะ แต่แค่ระวังปริมาณในการทาน อย่าให้มากเกินไป และหากเริ่มมีอาการท้องอืด ท้องเสีย ก็หยุดทานสักระยะ น่าจะดีขึ้นค่ะ
https://mydeedees.com/%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%9c%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%87-%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%86%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99/





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002