BMW X5 และ X6 รุ่นปรับโฉมใหม่ (LCI) ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว

ปรับดีไซน์หรูล้ำยิ่งขึ้น พร้อมหน้าจอ BMW Curved Display และระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 เวอร์ชันล่าสุด เพิ่มพละกำลังของเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในรุ่น
X5 xDrive50e สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้ไกลสูงสุดถึง 110 กิโลเมตร

BMW เผยโฉม X5 (G05) และ X6 (G06) รุ่นปรับโฉมใหม่พร้อมกันทั้งสองรุ่น ก่อนการวางจำหน่ายในตลาดโลกจะมีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป โดย BMW X5 ใหม่
จะมาพร้อมแพ็กเกจตกแต่ง xLine เป็นมาตรฐาน ติดตั้งไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดบางลงกว่ารุ่นเดิม 35 มม. พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันที่ตกแต่งให้เป็นรูปลูกศรชี้ออกไปยังด้านข้าง
โดยลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมฟังก์ชัน Adaptive และไฟสูงอัตโนมัติ BMW Selective Beam หรือเลือกตกแต่งแบบ M Shadowline เป็นออปชันเสริมได้

นอกจากนี้ ในรุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบ ยังสามารถเลือกติดตั้งกระจังหน้าเรืองแสง Iconic Glow ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นยามค่ำคืน มาพร้อมไฟท้ายที่ถูกตกแต่งใหม่ด้วย Fibre-optic light guide
ที่ตกแต่งให้เป็นรูปตัว L วางซ้อนกัน ช่วยให้ไฟท้ายทั้งสองข้างเรืองแสงเป็นรูปตัว X ในเวลากลางคืน สะท้อนถึงความเป็นรถ SAV (Sport Activity Vehicle) ตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู

ขณะที่รุ่น X6 ใหม่ มีการตกแต่งรูปลักษณ์ด้านหน้าเช่นเดียวกับรุ่น X5 แต่เสริมความสปอร์ตด้วยแพ็กเกจตกแต่ง M Sport เป็นมาตรฐานโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม มาพร้อมกันชนหน้าที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าจะได้สเกิร์ต M และแพ็กเกจตกแต่ง M High-gloss Shadowline ควบคู่กันไปด้วย ขณะที่กันชนท้ายตกแต่งด้วยวัสดุสี Dark Shadow
ควบคู่ไปกับปลายท่อไอเสียทรงสี่เหลื่ยมคางหมู

BMW X5 และ X6 ทุกรุ่นยังสามารถเลือกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยแพ็กเกจ M Sport package Pro

ที่มาพร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Double bars ประดับด้วยสัญลักษณ์ M, ฝาครอบกระจกมองข้าง M สีดำ Black high-gloss), ปลายท่อไอเสีย M แบบ 4 ท่อ
และเพิ่มเติมด้วยสปอยเลอร์หลังสีดำ Black high-gloss สำหรับรุ่น X6 M60i xDrive

ภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแบบ BMW Curved Display ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 เวอร์ชันล่าสุด พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Plus และระบบแผนที่นำทาง BMW Maps ที่ใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ อีกทั้งยังสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอ BMW Head-up Display และ Augmented View เป็นออปชันเสริมได้ รวมถึงสามารถรับชมคอนเทนท์ YouTube บนหน้าจอขนาด 14.9 นิ้วขณะรถหยุดนิ่งได้อีกด้วย

ด้านขุมพลัง Plug-in Hybrid ในรุ่น X5 xDrive50e มีการปรับปรุงเพิ่มพละกำลังและระยะทางขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไกลขึ้นกว่าเดิม โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ที่ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 27 แรงม้า) และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 197 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 84 แรงม้า) เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 490 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 96 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร (เพิ่มขึ้น 100 นิวตัน-เมตร) ส่งผลให้สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.8 วินาทีเท่านั้น ควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 25.7 kWh สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 110 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

ส่วนใครที่ชื่นชอบความแรงเป็นพิเศษก็สามารถเลือก BMW X5 M60i xDrive หรือ X6 M60i xDrive ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน V8 ความจุ 4.4 ลิตร
พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น

ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยจะมีขึ้นในภายหลัง
https://mydeedees.com/bmw-x5-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0-x6-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7/