[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน่วยงานในวิทยาลัย
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
งานนโยบายและแผนฯ
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 84 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หน่วยงานต่างๆ
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
วิจารหนัก ครูโรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม ใช้กรรไกรกล้อนผมนร.  VIEW : 260    
โดย หยาด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 519
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 18
Exp : 46%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 182.52.72.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 23 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เวลา 11:25:43    ปักหมุดและแบ่งปัน

ส่องบทเรียนกล้อนผม น.ร. ผอ.-ครูยุคทรงอย่างแบด

คลิปครูโรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรกล้อนผมนักเรียนกว่า 100 คน ระหว่างเข้าแถว เป็นที่วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 พ.ศ.2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 และเตรียมยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา

การไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนการลงโทษนักเรียนนับเป็นอีกเรื่องจากระเบียบทรงผม แต่การกล้อนผมเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม

แม้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะได้สั่งการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบ และล่าสุดมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนและครูรายดังกล่าวแล้วนั้น

มติชน สำรวจความเห็นในประเด็นดังกล่าว โดย นายวิรพจน์ โคกเกษม ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 จ.นครราชสีมา มองว่าทางโรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 ยังไม่ได้มีการหารือภาคีที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทางโรงเรียนอยู่ในช่วงเตรียมทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง หลังจากนี้จะรีบเชิญภาคีส่วนต่างๆ มาหารือเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนต่อไป ซึ่งระเบียบเดิมที่มีอยู่ก็ค่อนข้างครอบคลุมยึดโยงตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้ว

แต่ก็ต้องประชุมการมีส่วนร่วมจากคณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน ผู้ปกครอง คณะครู ฝ่ายปกครอง ผู้บริหาร รองผู้อำนวยการรวมไปถึงนักเรียนและสภานักเรียน มาพูดคุยกันเพื่อปรับระเบียบให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน และให้ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวัยเรียนที่เป็นวัยรุ่น ต้องฟังเสียงจากทุกฝ่ายให้รอบด้าน เนื่องจากเด็กยุคสมัยนี้อยากจะไว้ผมยาว ไม่ชอบให้มีกติกาบังคับ

เรื่องเสื้อผ้าไม่ค่อยมีปัญหา แต่เรื่องทรงผมทั้งนักเรียนหญิงและชายจะขอต่อรองกับทางโรงเรียนค่อนข้างมาก จากรองทรง เป็นรองทรงสูง ไม่รองทรง มาเป็นกะลาครอบ หรือทรงคนป่าก็มี ทางโรงเรียนก็ต้องตักเตือนเป็นรายๆ ไป ค่อยๆ ประนีประนอม บางทีก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ถ้าดูแล้วไม่เสียหายจนเกินไป เพราะทางกระทรวงไฟเขียว โยนความรับผิดชอบให้โรงเรียน ทางโรงเรียนก็ต้องไฟเขียวตาม ไม่สามารถบังคับกะเกณฑ์เข้มงวดได้เหมือนสมัยก่อน ดังนั้น จึงต้องพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปให้ได้

ข่าวครูกล้อนผมนักเรียนนั้น ทุกวันนี้บริบทของสังคมเปลี่ยนไป

ครูจะนำวิธีการแบบเดิมมาใช้ก็ทำได้ยาก ต้องใช้วิธีอบรมตักเตือนทำทัณฑ์บน ดำเนินการตามระเบียบของสถานศึกษา จะมากล้อนผมใช้วิธีแบบเดิมก็ดูไม่เหมาะสม เรื่องนี้ครูต้องทำความเข้าใจด้วย เพราะถึงแม้จะไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งเด็ก และอาจจะเห็นเด็กประพฤติผิดระเบียบเป็นอาจิณ จนไม่รู้จะบอกกล่าวตักเตือนอย่างไร ต้องนำวิธีเชือดไก่ให้ลิงดูมาใช้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาในยุคสมัยนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ครูคิด กลับกลายเป็นสร้างผลลบให้กับครูผู้สอนเสียเอง ดังนั้น ครูจะต้องระมัดระวังไตร่ตรองกันมากขึ้น อย่าให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวแล้วสร้างผลกระทบสะเทือนไปทั้งวงการ

ทางกระทรวงจะต้องออกหน้ารับผิดชอบบ้าง ไม่ใช่โยนมาให้โรงเรียนรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว ควรออกกติกาข้อกำหนดเรื่องการแต่งกาย-การไว้ทรงผมของนักเรียนให้ชัดเจน ต้องชี้ชัดให้ขาด เรื่องจะได้จบ โดยนักเรียนที่เรียนภาคบังคับ 9 ปีในโรงเรียนรัฐ ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึงชั้น ม.3 จะให้ไว้ทรงผมแบบไหน ยาวขนาดไหน ต้องกำหนดมาเลย เพื่อให้โรงเรียนปฏิบัติตาม แต่นี่กลับโยนเรื่องมาให้โรงเรียนออกแนวทางปฏิบัติ ทำให้หลายแห่งอาจเจอปัญหาถึงขั้นกระทบกระทั่งกับผู้ปกครองและชุมชน โรงเรียน 3 หมื่นกว่าแห่งจะให้คิดแบบเดียวกันคงทำได้ยาก ถ้าผู้บริหารโรงเรียนเข้าถึงผู้ปกครองและชุมชนได้ดี ก็จะดำเนินมาตรการได้อย่างราบรื่น ไม่เกิดปัญหา แต่หากผู้บริหารคนใดเน้นแต่วิชาการ ไม่ลงไปปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้ปกครองและชุมชน ก็อาจเกิดปัญหาความไม่เข้าใจขึ้นได้ นายวิรพจน์ระบุ

ขณะที่ นายวุฒิไกร วรรณการ ผู้อำนวยการโรงเรียนสารภีพิทยาคม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ บอกว่า สพฐ.ยังไม่มีหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าวว่าให้อำนาจและแนวทางปฏิบัติการไว้ทรงผมนักเรียนใหม่อย่างไร เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การไว้ทรงผมให้เข้ากับบริบท พันธกิจสถานศึกษา เบื้องต้นโรงเรียนอาจใช้แนวทางปฏิบัติเดิมไปก่อน แต่มีลักษณะยืดหยุ่นมากขึ้นให้เข้ากับสถานการณ์ และตอบสนองนักเรียนในเชิงเสรีมากขึ้น อาทิ กลุ่มเพศทางเลือก กลุ่มกิจกรรม เพื่อความเท่าเทียม เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และอยู่ร่วมในสังคมอย่างปกติสุข

ส่วนนักเรียนที่เรียนนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ต้องไว้ทรงผมตามระเบียบทหาร และยอมรับกฎเกณฑ์ดังกล่าว ส่วนทรงผมที่เป็นอัตลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เช่น ถักเปีย เกล้าผมปักดอกไม้ เนื่องในเทศกาลต่างๆ สามารถทำได้ตามความเหมาะสม ดูพอดีพองาม เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตชุมชน ไม่จำเป็นต้องทรงผมที่ทันสมัยดูสดใสตลอดเวลา

ทรงผมนักเรียนถือเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2566 จะประชุมทำความเข้าใจครูอาจารย์ นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน เพื่อวางแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และยอมรับกติการ่วมกันตามหลักประชาธิปไตย เพื่อสร้างความร่วมมือและป้องกันละเมิดกฎระเบียบ หรือแหกคอกแบบสุดโต่ง เช่น ย้อมสีผม ไว้ผมยาว ที่ไม่เหมาะกับสภาพนักเรียน ทำให้เกิดการเลียนแบบในทางที่ผิด ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป เชื่อว่าวิธีเดินสายกลางไม่สร้างความแตกแยกและไม่ให้เกิดปัญหาตามมาจะเป็นทางออกทุกฝ่ายที่ดีที่สุด นายวุฒิไกรแนะ

ด้าน นางเบ็ญญา ศรีเรืองพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนทัพทันอนุสรณ์ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี มองว่า ปัจจุบันทางโรงเรียนมีมติร่วมกันระหว่างครู ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา และนักเรียนสามารถไว้ทรงผมได้ตามใจ แต่ต้องเรียบร้อย ให้เหมาะสมกับเป็นนักเรียน เพราะก่อนหน้านี้ โรงเรียนของเราได้มีมติจากครู ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา และนักเรียน ถึงเรื่องทรงผม ซึ่งมีข้อตกลงกันแล้วว่านักเรียนทุกคนสามารถไว้ผมยาวได้มานานแล้ว โดยนักเรียนชายสามารถตัดผมรองทรงสั้นและรองทรงกลางได้ ส่วนนักเรียนหญิงสามารถไว้ผมยาวได้ แต่ให้รวบผมมัดและผมผูกโบให้เรียบร้อย และไม่ทำการย้อมสีผม

ในช่วงที่มีการประกาศออกมาดังกล่าวใหม่ๆ ก็สร้างความกังวลใจให้กับนักเรียนด้วยเช่นกัน จึงได้ออกมาชี้แจงกับนักเรียนถึงเรื่องดังกล่าวว่าทางโรงเรียนของเรานั้นยังเน้นกฎระเบียบเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนว่าโรงเรียนของเรานั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้นักเรียนสบายใจได้ เนื่องจากมีมติร่วมกันแล้ว นางเบ็ญญาระบุ

มุมมองและทัศนคติของผู้บริหารโรงเรียนมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาไทย ถ้าเดินตามบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไปทัน เข้ายุคตามสมัยและปรับเปลี่ยนเท่าทันเด็กยุค ทรงอย่างแบด พฤติกรรมโรงเรียนในแง่ลบคงไม่ออกมาประจานตามโลกออนไลน์อย่างแน่นอน
https://have-a-look.net/2023/02/12/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81-%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b6/





วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002