ดับกระหายคลายร้อน แบบสุขภาพดีด้วยน้ำสมุนไพร

เข้าสู่เดือนที่มีอุณหภูมิสูงสุดของประเทศแล้วค่ะ คราวที่แล้วเราพูดถึงวิธีการดูแลผิวพรรณในหน้าร้อนไปแล้ว ฉบับนี้เราจะมาแนะวิธีดับร้อนแบบสุขภาพดีกัน อากาศร้อน ๆ ก็ต้องหาอะไรดับร้อน และการจะช่วยให้เราคลายร้อนได้นั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ การอาบน้ำเย็น แต่การอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวันทั้งคืนก็ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้นะคะ…ดังนั้น การคลายร้อนอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีก็คือ การดื่มนํ้าเย็น ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้จิตใจชุ่มชื่น รู้สึกสดชื่นและเย็นสบาย เพราะนํ้าจะช่วยทดแทนเหงื่อที่ออกมา และถ้าได้ดื่มนํ้าสมุนไพรด้วยแล้วล่ะก็จะยิ่งช่วยให้สดชื่นมากยิ่งขึ้น เพราะนํ้าสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยผ่อนคลายความร้อน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง และแก้อาการกระหายนํ้าได้

นอกจากจะช่วยในการแก้กระหายนํ้าแล้ว สมุนไพรยังมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกมาก เช่น ช่วยในการบำรุงหัวใจ ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยในการรักษาอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรงได้อีกด้วย เรามาดูกันค่ะว่าสมุนไพรแต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

กระเจี๊ยบ – ช่วยย่อยอาหาร ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ เป็นยาบำรุงธาตุ ยาระบาย และช่วยลดความดันโลหิต

ขิง – ใช้เป็นยาแก้อาเจียน แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดและปวดท้อง แก้อาการไอและขับเสมหะ และใช้เป็นยาขมช่วยในการเจริญอาหาร

มะนาว – เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ช่วยขับลม แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ แก้เลือดออกตามไรฟัน และถ่ายพยาธิ

ตะไคร้ – แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ปวดท้อง อาการขับเบาผู้ที่ปัสสาวะไม่คล่อง

มะตูม – ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ขับเสมหะ และแก้อาการร้อนใน

เก๊กฮวย – เป็นยาเย็น ช่วยลดความร้อนของร่างกาย ดับพิษร้อน แก้ร้อนใน แก้ปวดท้อง เป็นยาระบาย ช่วยป้องกันโรคหลดอเลือดต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ และโรคหัวใจ

เตยหอม – ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ยาบำรุงหัวใจ ยาแก้เบาหวาน

ดอกอัญชัญ – ใช้เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบาย แก้ตาฟางและตาแฉะ และช่วยการไหลเวียนในหลอดเลือดเล็ก ๆ ทำให้เพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้

ทับทิม – ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดและตัวกลม แก้ท้องร่วง ท้องเดิน และโรคบิด

บัวบก – ใช้เป็นยาแก้ปวดศีรษะข้างเดียว ยาแก้เจ็บคอ ยาลดความดันโลหิตสูง แก้ช้ำใน และช่วยถอนพิษรักษาแผลน้ำร้อนลวก

มะระขี้นก – ช่วยเจริญอาหาร บำรุงน้ำดี แก้ไข้และแก้ร้อนใน

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าน้ำดื่มสมุนไพรแต่ละชนิดมีประโยชน์ทั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบ แต่บางคนอาจไม่ค่อยชอบ เนื่องจากน้ำสมุนไพรบางชนิดอาจดื่มลำบาก เพราะมีรสชาติขมบ้าง เผ็ดบ้าง หรือรสชาติแปลก ๆ แต่ก็เป็นแค่ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น โดยวิธีการดื่มที่ดี ควรดื่มแบบจิบช้า ๆ และควรดื่มทันทีที่ปรุงเสร็จเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและทางยามากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานแล้วดื่ม เนื่องจากจะทำให้คุณค่าลดลง นอกจากนี้ยังสามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น แต่การดื่มน้ำสมุนไพรชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของสารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต่อร่างกายได้ และการดื่มน้ำสมุนไพรร้อน ๆ ที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหารเสียสภาพภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ และอาจทำให้มีการดูดซึมสารก่อมะเร็งและจุลินทรีย์ได้ง่าย จึงควรระมัดระวังในการดื่มด้วย

น้ำสมุนไพรเป็นทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพ เพราะให้คุณประโยชน์มากมาย ร้อนนี้เราเปลี่ยนจากการดื่มน้ำอัดลมมาเป็นการดื่มน้ำสมุนไพรแทนดีกว่านะคะ เพราะให้แคลอรี่ต่ำกว่า นอกจากดีต่อสุขภาพแล้วไม่ทำให้อ้วนด้วย แต่อย่างไรก็ตามอากาศร้อน ๆ แบบนี้ ใจอย่าร้อนตามนะคะ ไม่อย่างนั้นแล้วอุหภูมิในร่างกายจะยิ่งสูงไปด้วย แล้วจะทำให้ยิ่งร้อนกันไปใหญ่คะ…

ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com

ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : thaigoodherbal.com