แจ้งจับ “การ์ด” ตบฝรั่ง! ผับข้าวสารไล่ออกแล้ว
ฉาวถนนข้าวสารแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก หลังคลิปว่อน การ์ดผับดังลุแก่อำนาจจับนักท่องเที่ยวหนุ่มฝรั่งใส่กุญแจมือและตบหน้าไป 2 ครั้ง จนเพื่อนการ์ดเข้ามาห้าม ผกก.สน.ชนะสงครามเผยหลังเห็นคลิป ไปเอาตัวการ์ดมือตบและคนห้ามมาทำประวัติรวมทั้งเร่งตามผู้เสียหายมาร้องทุกข์ เบื้องต้นเหตุจากหนุ่มฝรั่งไปหยิบน้ำดื่มของร้านออกมาเพราะเข้าใจว่าแจกฟรี ขณะที่ทีมผู้บริหารผับเต้นโพสต์ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสั่งไล่ออกการ์ดมือตบและแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
กรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ ขณะที่การ์ดผับแห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร กำลังคุมตัว และพูดคุยกับชายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนหนึ่ง คาดว่าเป็นชาวยุโรป โดยใส่กุญแจมือนักท่องเที่ยว ไว้ ระหว่างพูดคุยนักท่องเที่ยวพยายามอธิบาย แต่กลับถูกการ์ดคนดังกล่าวตบหน้า ก่อนจะมีการ์ดอีกคนหนึ่งเข้ามาห้ามปราม กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เพราะทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก. สน.ชนะสงคราม เผยว่า หลังทราบเรื่องสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่จนทราบว่านายธงชัย แสงจันทร์ อายุ 30 ปี เป็นการ์ดคนที่ตบหน้านักท่องเที่ยว และนายกฤษฎา โชติฉันท์ อายุ 45 ปี การ์ดคนที่เข้าไปห้าม ทั้งสองเป็นบุคคลตามคลิป นำตัวมาสอบถามข้อมูล และทำประวัติที่ สน.ชนะสงครามเรียบร้อยแล้ว
ผกก.สน.ชนะสงครามกล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 26 ก.พ. นายธงชัยรับแจ้งจากภายในร้านว่ามีนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติขโมยน้ำดื่มของทางร้าน นายธงชัยเข้ามาตรวจสอบ และสอบถามว่าขโมยไปจริงหรือไม่ ชายชาวต่างชาติรับว่าหยิบมาจริง เพราะเข้าใจว่าแจกฟรี นายธงชัยต่อว่าด้วยความโมโห และสื่อสารเข้าใจผิดจึงใส่กุญแจมือ และตบหน้าชายชาวต่างชาติไป 2 ครั้ง ต่อมานายกฤษฎาการ์ดคนที่ 2 เดินเข้าไปห้าม และมีนักท่องเที่ยวหญิงชาวไทยผ่านมาถ่ายคลิปไว้ ก่อนโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์
พ.ต.อ.สนองกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามชายชาวต่างชาติในฐานะผู้เสียหาย
ให้มาแจ้งความร้องทุกข์และสอบปากคำ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยวันนี้เวลา 17.00 น. นัดหมายให้การ์ดทั้งสองคนมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ปกติ สน.ชนะสงครามจะพูดคุยกับการ์ดของสถานบันเทิงทั้งหมดที่ถนนข้าวสาร มาพูดคุย ชี้แจง เกี่ยวกับการดูแลนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำตามวงรอบอยู่แล้ว แต่หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจะมีการเชิญการ์ดทั้งหมดมาเน้นย้ำมาตรการต่างๆอีกครั้ง
ต่อมาทางทีมผู้บริหาร THE CLUB KHAOSANได้ออกหนังสือโพสต์ผ่านเพจทางร้านขอโทษลูกค้า ความว่า “กราบเรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณร้าน THE CLUB KHAOSAN ทุกท่าน สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับร้าน THE CLUB KHAOSAN ที่ลูกค้าผู้มีอุปการคุณได้พบและแจ้งผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งเพจ THE CLUB KHAOSAN มาอย่างต่อเนื่อง ร้าน THE CLUB KHAOSAN ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ทีมบริหารตระหนักถึงปัญหาและประเด็นที่เกิดขึ้นอย่างมิได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามหาช่องทางเพื่อติดต่อชาวต่างชาติ รวมถึงชาวไทยใน vdo ดังกล่าวแล้วเพื่อชดเชยอย่างเต็มความสามารถ เรื่องการกระทำดังกล่าวของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติต่อลูกค้าชาวต่างชาติอย่างไม่เหมาะสม เบื้องต้นตอนนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย และให้ออกจากงาน อันเป็นไปตามนโยบายบริษัท และได้เร่งฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดที่เหลือ รวมทั้งควบคุมดูแลพนักงานของเราอย่างเข้มงวด เพื่องานบริการที่มีคุณภาพ
ทีมบริหารร้าน THE CLUB KHAOSAN กราบขออภัยลูกค้าผู้มีอุปการคุณอย่างสูงสุด
ทั้งนี้ทางร้าน THE CLUB KHAOSAN มิได้นิ่งนอนใจและเพิกเฉยแต่อย่างใด เรายินดีน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ความคิดเห็น และข้อแนะนำต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการทำงานและการให้บริการของร้าน THE CLUB KHAOSAN ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอแสดงความนับถืออย่างสูง ทีมบริหารร้าน THE CLUB KHAOSAN
เย็นวันเดียวกัน ที่ถนนข้าวสาร พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รอง ผกก.ป.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ต.ปรเมษฐ์ ดวงแก้ว สว.กก.1 บก.ทท. ร่วมกับตัวแทนร้านอาหารและตัวแทนการ์ดร้านถนนข้าวสาร 30 คน มาปรับความเข้าใจ โดย พ.ต.อ.สนองกล่าวว่า เป็นการเรียกประชุมแบบฉุกเฉินเพราะมีการ์ดแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกไม่นานเดือนเมษายนที่จะถึง นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวอีกจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวถนนข้าวสาร การ์ดจะต้องช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทั้งถนนข้าวสารให้ปลอดภัย สำหรับการ์ดทั้งสองคนยอมรับว่าก่อเหตุจริง
สาเหตุนักท่องเที่ยวขโมยน้ำเปล่า 1 ขวด ทางร้านได้แสดงความรับผิดชอบให้การ์ดทั้งสองคนออกจากงานพร้อมปิดสถานบริการ 3 วัน ตามมาตรการผู้ประกอบการที่ตกลงกันไว้ เพื่อปรับปรุงระบบบริหารจัดการของร้าน สำหรับการใช้กุญแจมือกับนักท่องเที่ยวนั้น ทุกคนพกพากุญแจมือและจับกุมได้เฉพาะคดีลักวิ่งชิงปล้นในเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาผู้ใด เนื่องจากชาวต่างชาติผู้เสียหายยังไม่แจ้งความทำร้ายร่างกาย ส่วนทางร้านก็ไม่ได้เข้ามาแจ้งความลักทรัพย์ต่อนักท่องเที่ยว
พ.ต.อ.สนองกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีคลิปปรากฏในโซเชียลอีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นการวิวาทระหว่างรถสามล้อไปเฉี่ยวชนแท็กซี่ มีชายชาวต่างชาติเข้าไปเป็นพยานว่าสามล้อได้เฉี่ยวชนแท็กซี่ ทำให้ผู้ขี่รถสามล้อไม่พอใจชกหน้า 2ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จะติดตามคู่กรณีรถเฉี่ยวชนมาสอบปากคำรวมถึงติดต่อชายชาวต่างชาติมาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net