
เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา อันเดร เชือร์เล่ ทำให้แฟนบอลหลายคนต้องช็อก หลังจากที่ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพทั้งที่ตัวเองเพิ่งมีอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น โดยมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยินยอมร่วมกันที่จะยกเลิกสัญญาของเขาก่อนกำหนด
เชือร์เล่ ให้เหตุผลในภายหลังว่าตัวเองรู้สึกเหงามากๆ ในช่วงที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพราะที่ผ่านมาเขาต้องเสียสละหลายต่อหลายอย่างเพื่อแลกกับการที่ตัวเองจะได้ยังทำอาชีพนี้ต่อไปได้ พร้อมบอกด้วยว่าที่จริงคิดเกี่ยวกับการแขวนสตั๊ดมาพักหนึ่งแล้ว
การที่เขาแขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุยังน้อยมันน่าตกใจเป็นอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงการที่เจ้าตัวเคยอยู่กับทีมดังอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, เชลซี และ ดอร์ทมุนด์ รวมถึงอยู่ในทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามันก็มีหลายคนที่เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพตั้งแต่ตอนที่ยังอายุไม่ถึง 30 ปีเช่นกัน และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ สัก 5 คนกัน โดยจะไม่นับรวมคนที่เคยแขวนสตั๊ดไปแต่กลับมาเล่นในภายหลัง
- เซบาสเตียน ไดส์เลอร์ (แขวนสตั๊ดตอนอายุ 27 ปี)
"หนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ดีที่สุดในรุ่นเดียวกันของเยอรมนี" คือคำยกย่องที่หลายคนเคยมอบให้ ไดส์เลอร์ และถูกมองว่าจะเป็นอนาคตของวงการฟุตบอลเยอรมนีด้วย หลังจากที่เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมหลายด้าน น่าเสียดายที่ ไดส์เลอร์ ไม่สามารถไปถึงระดับนั้นได้
ไดส์เลอร์ โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานหลายต่อหลายครั้งทั้งตรงหัวเข่าและบริเวณเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า ซึ่งมันก็ทำให้เขาไม่สามารถพัฒนาฝีเท้าได้ดีเท่าที่ควร ซ้ำร้ายมันยังส่งผลให้เขามีปัญหาด้านสภาพจิตใจอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เจ้าตัวมีอาการหดหู่ด้วย ในที่สุด ไดส์เลอร์ ก็ตัดสินใจหันหลังให้กับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพด้วยวัย 27 ปี เมื่อเดือนมกราคม ปี 2007
ไดส์เลอร์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงการแขวนสตั๊ดของตัวเองว่า "ผมไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้แบบฉุกละหุก ผมใช้เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ผมไม่เชื่อมั่นอีกต่อไปแล้วว่าสภาพหัวเข่าของผมมันจะรับมือกับการเล่นฟุตบอลอาชีพได้ ผมไม่รู้สึกสนุกในการเล่นอีกต่อไปแล้วทั้งที่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ผมไม่อยากทำอะไรที่มันครึ่งๆ หลางๆ การทำอย่างนั้นมันช่วยใครไม่ได้หรอก"
- นอร์แมน ไวท์ไซด์ (แขวนสตั๊ดตอนอายุ 26 ปี)
ในช่วงทศวรรษ 80 และก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเข้าไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น ไวท์ไซด์ ถือเป็นคนที่มีฝีเท้าดีเป็นลำดับต้นๆ ของทัพ "ปีศาจแดง" เขาเล่นได้หลายบทบาทในแดนกลาง, สามารถถูกดันไปอยู่ในแดนหน้าแบบขัดตาทัพได้บ้าง แถมยังเป็นคนที่ฟิตมากๆ จนวิ่งได้แทบจะตลอดทั้งเกม
อย่างไรก็ตาม มันมีข่าวลือว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย แถม เฟอร์กูสัน ก็ต้องการสร้างทีมของตัวเองแบบเต็มที่ด้วย ทำให้ถึงแม้ส่วนตัวแล้ว เฟอร์กูสัน จะไม่มีปัญหากับ ไวท์ไซด์ แต่ในปี 1989 เฟอร์กูสัน ก็ตัดสินใจขาย ไวท์ไซด์ ไปให้ เอฟเวอร์ตัน โดยอดีตดาวเตะชาวไอร์แลนด์เหนือจากทีมไปพร้อมกับผลงานการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 274 นัดในทุกรายการ, ทำไป 67 ประตู รวมถึงได้แชมป์ เอฟเอ คัพกับทีม 2 สมัย และแชมป์ แชริตี้ ชิลด์ อีก 1 หน
ตอนที่ ไวท์ไซด์ ไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน นั้น "เร้ด อาร์มี่" บางส่วนไม่พอใจมากๆ เพราะเขาคิดว่าเจ้าหนูวัย 24 ปีในตอนนั้นยังมีอนาคตกับทีม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ ไวท์ไซด์ จะได้ลงเล่นหลายนัดในฤดูกาลแรกกับ เอฟเวอร์ตัน แต่พอถึงซีซั่น 1990-91 เขาก็โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างหนักจนสุดท้ายต้องแขวนสตั๊ดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1991 ด้วยวัยเพียง 26 ปี
- เดวิด เบนท์ลี่ย์ (แขวนสตั๊ดตอนอายุ 29 ปี)
"นิว เดวิด เบ็คแฮม" เป็นฉายาที่ เบนท์ลี่ย์ เคยได้รับ เขาเคยอยู่กับทั้ง อาร์เซน่อล, แบล็คเบิร์น และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาแล้ว รวมถึงยังเคยติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วย ทำให้ดูแล้วตอนแรกอนาคตของเขาก็มีความสดใสพอตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ไม่สามารถพัฒนาฝีเท้าต่อได้จนทำให้ สเปอร์ส ไม่ต่อสัญญากับเขาในตอนที่สัญญามันหมดลงเมื่อปี 2013
ในตอนนั้นหลายคนคิดว่าเขาน่าจะหาทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่สุดท้าย เบนท์ลี่ย์ ต้องกลายเป็นคนไร้สังกัดถึง 1 ปี และพอถึงช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2014 เบนท์ลี่ย์ ก็ประกาศแขวนสตั๊ดในตอนที่มีอายุ 29 ปี โดยตอนที่ประกาศแขวนสตั๊ดนั้นเขายังพูดด้วยว่า "เกมมันเปลี่ยนไปมาก ตอนที่ผมเริ่มเล่นฟุตบอลน่ะมันสนุกกว่านี้เยอะ คุณมาทำงานทุกวันและบรรยากาศก็ยอดเยี่ยมสุดๆ แต่ทุกวันนี้มันให้อารมณ์เหมือนหุ่นยนต์นิดๆ จากการที่มีโซเชียลมีเดียเข้ามาเอี่ยว และมีเงินเข้ามาพัวพันกับวงการฟุตบอลด้วย ผมก็ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะ แต่มันทำให้ฟุตบอลน่าเบื่อ มันทำให้ฟุตบอลคาดเดาได้ง่าย และเหมือนมีการคำนวณเอาไว้แล้วมากเกินไป"
เพิ่มเติม : mymeeti.com
|