[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by
ATOMYMAXSITE 2.5
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
เมนูหลัก
หน้าแรก
ที่ตั้งโรงเรียน
ประวัติโรงเรียน
การจัดการศึกษา
เอกลักษณ์
อัตลักษณ์
ทำเนียบบุคลากร
ประมวลภาพกิจกรรม
สมุดเยี่ยม
ปฏิทินกิจกรรม
ข่าวสาร/ประชาสัมพันธ์
สาระความรู้
โครงการ/งาน
กระดานข่าว
ดาวน์โหลด
สมาคมศิษย์เก่า
ผลงานทางวิชาการ
contact
blog
video
Administrator
หน่วยงานในวิทยาลัย
แผนกวิชาสามัญ
แผนกการบัญชี
แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
แผนกช่างยนต์
แผนกไฟฟ้ากำลัง
ข้อมูลพื้นฐานวิทยาลัย
ข้อมูลบุคลากร
ข้อมูลนักเรียนนักศึกษา
หลักสูตรที่เปิดสอน
อาคารสถานที่
งปประมาณ
ครุภัณฑ์
ข้อมูลสถานประกอบการ
ข้อมูลเศรษฐกิจ สังคม
งานนโยบายและแผนฯ
แผนยุทธศาสตร์ ปี 2559
แผนยุทธศาสตร์ ปี 2560
แผนยุทธศาสตร์ ปี 2561
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ]
|
[ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด
84
คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์
0
คน
หน่วยงานต่างๆ
poll
คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร
ดีมาก
ดี
ปานกลาง
แย่
แย่มาก
ดูผลการ vote
เว็บบอร์ด
>>
ห้องนั่งเล่น
>>
"กินลิ้นจี่" เด็ก 6 ขวบหวิดช็อก นอนเหงื่อออก-ตัวเย็น หมอเตือนชัด ห้ามกินเกินวันละกี่ลูก?!
VIEW : 2
โดย
บารี
UID :
ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว
:
5
ตอบแล้ว
:
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP
:
223.205.237.
xxx
เมื่อ :
เสาร์์ ที่ 21 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 15:18:33
เด็กหญิง 6 ขวบ ถูกส่งโรงพยาบาล หลังกินลิ้นจี่มากกว่า 10 ชิ้น มีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ง่วงซึม เหงื่ออกเย็น ฤดูร้อนก็เป็นฤดูกาลของลิ้นจี่เช่นกัน แต่ระหว่างที่เพลิดเพลินกับผลไม้รสหวานนี้ เราต้องใส่ใจถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อไม่นานมานี้มีกรณีเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน กินลิ้นจี่ในปริมาณมากในขณะท้องว่าง และมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ง่วงนอน เหงื่อออกตัวเย็น และต้องเข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉิน แพทย์เตือนอย่างจริงจังว่าอาการดังกล่าวอาจคุกคามชีวิตได้หากรุนแรงขึ้น
123bet
ตามรายงานพบว่า เด็กหญิงวัย 6 ขวบรายนี้รู้สึกหิวหลังเลิกเรียน จึงกินลิ้นจี่มากกว่า 10 ชิ้นในคราวเดียว หลังจากนั้นก็หลับไปอย่างรวดเร็ว และมีอาการเหงื่อออกมาก พ่อแม่เห็นตกใจมากจึงรีบพาเธอไปโรงพยาบาล ผลการทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กหญิงอยู่ที่ประมาณ 3 มิลลิโมลต่อลิตร ซึ่งหมายความว่าเธออยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แพทย์อธิบายว่าในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แพทย์แนะนำให้ผู้ใหญ่ไม่ควรทานลิ้นจี่เกิน 15-20 ลูกต่อวัน ส่วนเด็กควรทานเพียงครึ่งเดียวของปริมาณดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการทานขณะท้องว่าง เนื่องจากลิ้นจี่มีรสหวานและมีน้ำตาลในปริมาณสูงมาก โดยเฉพาะฟรุคโตส เมื่อรับประทานลิ้นจี่ ร่างกายของมนุษย์จะเข้าสู่กระบวนการสร้างกลูโคสใหม่และหลั่งอินซูลินเพื่อปรับสมดุลของการบริโภคน้ำตาล อย่างไรก็ตาม หากหลั่งอินซูลินมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน และการรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปากแห้ง เลือดกำเดาไหล หรืออาการ "ร้อนใน" อื่นๆ ได้ และนอกจากลิ้นจี่แล้ว ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอื่นๆ เช่น แตงโม แอปเปิล หรือแม้แต่น้ำผึ้ง น้ำตาลหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้เช่นกันในผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติหรือมีความไวต่ออินซูลิน ดังนั้นจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ
[
อ้างอิง
]
Re หัวข้อ :
รูปประกอบ :
จำกัดขนาด 100 kB
รายละเอียด :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้
ชื่อของท่าน :
RASRISALAI COMMERCIAL AND TECHNOLOGICAL COLLEGE
วิทยาลัยเทคโนโลยีโซ่พิสัย
237 หมุู่ 8 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170 โทรศัพท์ 042-086002 โทรสาร 042-086002