10 แนวทางเล่นหุ้นเบื้องต้น มือใหม่ควรจะทราบอะไรบ้างไทยเมืองออนไลน์
ไลฟ์สไตล์
การคลังแล้วก็การลงทุนการคลังเกิดเรื่องใกล้ตัว แนวทางเล่นหุ้นเกิดเรื่องที่รู้เรื่องไม่ยาก ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ยังไม่มีหลักสูตรสอนในสถานศึกษา joker123 แม้กระนั้นทางตลาดหุ้นที่เมืองไทยก็เปิด “ห้องเรียนนักลงทุน” ไว้ให้เล่าเรียนบนเว็บ Set.or.th โดยคนที่เริ่มเล่นหุ้นต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ว่าถ้าเกิดอายุยังไม่ถึงก็สามารถเล่าเรียนแนวทางและก็ลักษณะการนำไปใช้งานไว้ก่อนได้
10 แนวทางเล่นหุ้นที่นักเล่นหุ้นมือใหม่ควรจะทราบ
นักลงทุนมือใหม่ ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาของหุ้นแต่ละตัวที่จะซื้อ ด้วยการเริ่มลงทุนซื้อหุ้นด้วยวงเงินซึ่งสามารถสารภาพการเสี่ยงได้ joker123 เมื่อเก็บหุ้นไว้ได้มากขึ้นก็จะทราบสไตล์การลงทุนของตน จัดแจงพอร์ตของตนได้เก่งขึ้น
1. อายุมากแค่ไหนถึงจะเล่นหุ้นได้
ก่อนเปิดบัญชีค้าขายหุ้น ทางแบงค์จะขอดูเอกสารบัตรประชาชน เพื่อพิจารณาอายุของนักลงทุน โดยชอบด้วยกฎหมายกล่าวถึงบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ ในอายุ 20 ปีบริบูรณ์ จะกระทำค้าขายหรือลงลายลักษณ์อักษรต่างๆได้โดยไม่เป็นโมฆียะ
2. มีเงินเยอะแค่ไหนถึงจะเล่นหุ้นได้
หากแม้หุ้นบางตัวจะแพงอย่างน้อยการค้าขายเพียงแค่หลักพันบาท แม้กระนั้นก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆตัวอย่างเช่น ถ้าหากเลือกเปิดบัญชีเงินสด (Cash Account) ก็จำต้องวางหลักประกัน 15% ของวงเงิน เพื่อใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้น ถ้าหากได้รับวงเงิน 100,000 บาท ก็จำต้องวางหลักประกัน 15,000 บาท ใช้หลักประกันเป็นเงินสด หรือหลักทรัพย์ ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นจะต้องประเมินการลงทุนของตน เพื่อจัดเตรียมเงินสดและก็หลักทรัพย์มาลงทุน
3. เปิดบัญชีหุ้น ค้าขายหุ้น ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เอกสารที่จำต้องใช้เปิดบัญชีซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้น เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, ใบเปลี่ยนแปลงนามสกุล (ถ้าหากมี), สำเนาบัญชีสะสมทรัพย์ย้อนไป 6 เดือน
4. เลือกเปิดบัญชีเงินสด (Cash Account) หรือแคชบาลานซ์ (Cash Balance/ Cash Deposit)
ตลาดหุ้นที่เมืองไทยเสนอแนะมือใหม่เปิดบัญชีเงินสด (Cash Account) หรือ บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance/ Cash Deposit) ซึ่งได้แก่การใช้หลักทรัพย์ หรือเงินลงทุนส่วนตัวของนักลงทุนมาใช้จำหน่ายหุ้น ส่วนบัญชีมาร์จิ้น (Margin Account/ Credit Balance) เหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญแล้วระดับหนึ่ง เนื่องจากใช้เงินซื้อหุ้นส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้ยืม โดยนักลงทุนจะต้องจ่ายดอกเพิ่มด้วย ดูก่อนยละเอียดเพิ่มเติมอีกตรงนี้
5. เลือกโบรกเกอร์
เลือกเปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ที่สบายต่อการจัดการพอร์ตของคุณ โดยพิเคราะห์จากค่าธรรมเนียม แล้วก็ข้อเสนอแนะต่างๆที่ได้จากโบรกเกอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน โดยสำรวจรายนามโบรกเกอร์ได้จากตลาดหุ้นที่เมืองไทย (คลิกตรงนี้)
6. ทำแบบประเมินการเสี่ยง ก่อนซื้อหุ้น
เพราะว่าหุ้นแต่ละตัวมีการเสี่ยงที่ต่างกัน ก่อนเปิดบัญชีจำหน่ายกับทางบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆจะให้นักลงทุนทำแบบประเมินการเสี่ยงก่อน ซึ่งจะก่อให้คุณรู้เรื่องการเสี่ยงการลงทุนของตนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งใช้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในเอกสารเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เพื่อสร้างพอร์ตหุ้นด้วย
7. เรียนเนื้อหาของหุ้นที่จะซื้อ มองงบการเงินของแต่ละหุ้น
ก่อนเข้าซื้อหุ้นสักตัว นักลงทุนควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาของหุ้นที่จะซื้อ ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่จะซื้อนั้นจัดอยู่ในธุรกิจชนิดใด คนใดกันเป็นเจ้าของธุรกิจการค้า มีเงินปันผลหรือเปล่า และก็ข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรจะทราบ
8. ติดตามข่าวสารหุ้นอยู่เป็นประจำ
นักลงทุนควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลที่น่าดึงดูดของหุ้น อีกทั้งจากหนังสือพิมพ์ เว็บ และก็วิถีทางของโบรกเกอร์ ซึ่งมีบทวิจารณ์ตามระยะเวลาต่างๆ
9. จัดตั้งโปรแกรมซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์
การเรียนรู้ราคาของหุ้นรายวันถ้าเกิดมิได้ติดตามตลอด ก็สามารถลงโปรแกรมสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ ที่เข้ามามองค่าต่างๆย้อนไปได้ กดค้าขายผ่านแอปพลิเคชันได้ และก็มีบางบริษัทสร้างโปรแกรมทดสอบสร้างพอร์ตของตนเอง จัดตั้งโปรแกรมค้าขายหลักทรัพย์จากตลาดค้าหุ้น (คลิกตรงนี้)
10. สร้างพอร์ตหุ้น
เมื่อเริ่มค้าขายหุ้นได้สัก 1-2 ตัว กระทั่งเริ่มเชี่ยวชาญรวมทั้งสร้างเป็นพอร์ตหุ้นของตน ซึ่งพอร์ตหุ้นนี้จะเบาๆเติบโตได้ผลผลกำไรขึ้นในอนาคต
|