ปี 64 พบคนไทย ฆ่าตัวตาย ถึง 5,000 คน กว่าครึ่งเกิดจากปัญหาด้านความสัมพันธ์ สสส.-สธ.-มสช. ดึง พลังชุมชนท้องถิ่น ร่วมป้องกันปัญหาสุขภาพจิต หวังลดอัตราฆ่าตัวตาย คาด 10 ปี สูญเสียแซงโรคไม่ติดต่อ
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2565 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) จัดเสวนาออนไลน์ “พลังชุมชนท้องถิ่นร่วมส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตคนไทย” เพื่อกระตุกสังคมไทยให้ความสำคัญและร่วมแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายโดยเริ่มจากตัวเอง เนื่องในวัน “วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก” 10 กันยายน
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทยในปัจจุบันว่า สถานการณ์การฆ่าตัวตายทั่วโลกมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาสุขภาพจิตมีปริมาณมากขึ้น และคาดการณ์ว่า 10 ปีข้างหน้า สุขภาพจิตจะกลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่ทำให้เกิดการสูญเสียเป็นอันดับ 1 ของโรคไม่ติดต่อทั้งหมด
ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 500-1,000 คนต่อปี ในปี 2564 มีคนฆ่าตัวตายถึง 5,000 คน และพบว่า อันดับ 1 หรือร้อยละ 50 ที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย คือ ปัญหาด้านความสัมพันธ์
ปัญหาในเรื่องสุขภาพกายมาเป็นอันดับ 2 หรือร้อยละ 20-30 อันดับ 3 คือปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันดับ 4 คือปัญหาด้านเศรษฐกิจ
ซึ่งอันดับ 3 และ 4 จะสลับกันขึ้นลง ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้คนฆ่าตัวตายไม่ได้เกิดจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง แต่ร้อยละ 90 มี 2 สาเหตุร่วม โดยมีปัญหาด้านความสัมพันธ์เป็นปัจจัยหลักเสมอ
soundmarketingstudios.com
|