จอดรถตากแดดเป็นเวลานาน มีผลเสียอย่างไร อันตรายหรือไม่ ?
หากจำเป็นต้องจอดรถตากแดดทุกวันจะมีผลเสียอย่างไรกับรถยนต์บ้าง อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนไหนจะได้รับอันตรายไหม และ
จะมีวิธีป้องกันอย่างไร เราไปหาคำตอบกัน
ทุกวันนี้แสงแดดในประเทศไทยนั้นร้อนระอุมาก จนทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจ
เลี่ยงได้อย่างเรา นั่นก็คือ รถยนต์ เพราะด้วยปริมาณรถที่มากขึ้นสวนทางกับที่จอดรถในร่มมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องจอดรถกลางแดด
แต่รู้หรือไม่ว่าการจอดรถตากแดดนาน ๆ อาจทำให้อะไหล่บางชิ้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ วันนี้เราจะพามาดูว่าส่วนไหนของรถบ้างที่มีโอกาส
พังเร็วเมื่อโดนแดดนาน ๆ
จอดรถตากแดด ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง
ด้วยความร้อนจากแสงแดดในปัจจุบันที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางวันอยู่ที่ 36-40 องศาเซลเซียส การจอดรถตากแดดย่อมทำให้
รถยนต์มีอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในรถที่ปิดสนิท เพราะความร้อนจะถูกสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ตัวรถก่อน
ถ่ายเทเข้าสู่ห้องโดยสารที่เป็นพื้นที่ปิด โอกาสที่จะเกิดความเสียหายภายในห้องโดยสารก็มีมากขึ้น แม้จะไม่เกิดในทันทีแต่ก็เป็นการลดอายุ
การใช้งานของอะไหล่ต่าง ๆ ให้มีอายุสั้นลงกว่าปกติ
1. สีรถยนต์
จุดแรกที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ขับรถออกจากบ้าน ยิ่งถ้าต้องจอดรถไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน รังสียูวีอาจทำให้
แว็กซ์หรือสารเคมีที่ใช้ในการเคลือบสีรถให้ดูเงางามเสื่อมคุณภาพลง ส่งผลให้สีรถไม่เงางาม ดูหมองลง
2. ยางรถยนต์
แม้จะเป็นการจอดรถอยู่เฉย ๆ แต่การที่ยางรถยนต์ต้องอยู่กลางแจ้ง ทนต่อความร้อนเป็นระยะเวลานาน ๆ ย่อมส่งผลให้ยางเสื่อม
คุณภาพได้เร็วขึ้น ไม่ต่างจากการขับรถในเวลาปกติเลย
3. ฟิล์มกรองแสง
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะต้องรองรับกับแสงอาทิตย์โดยตรง แม้ฟิล์มกรองแสงจะมีหน้าที่ป้องกันความร้อนจากแสงแดดและรังสียูวี แต่การที่
ฟิล์มต้องเจอกับความร้อนในทุก ๆ วันเป็นเวลานานก็อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงกว่าปกติ
4. ห้องโดยสาร
บางคนอาจบอกว่าการจอดรถตากแดดเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายในห้องโดยสารไปในตัว แต่การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน
โดยที่ทุกอย่างปิดสนิท จะทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร ส่งผลให้วัสดุต่าง ๆ ที่เป็นหนัง ยางหรือพลาสติก เสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น
ดังนั้นการลดกระจกลงจะช่วยทำให้อากาศถ่ายเท และระบายความร้อนออกไปได้
5. เครื่องยนต์
ทุกครั้งที่สตาร์ตเครื่องและขับรถ เครื่องยนต์จะต้องเจอกับสภาวะอุณหภูมิที่สูงอยู่แล้ว แต่การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เครื่องยนต์
จะได้รับผลกระทบที่แตกต่างออกไป น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติจนเกิดอาการบวม และระบบ
ปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักเพื่อระบายความร้อน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ต้องพึงระวังเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องจอดรถกลางแดดก็คือ อุปกรณ์หรือสิ่งของบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟ
ได้หากอยู่ในที่ที่มีความร้อนเป็นเวลานาน เช่น ไฟแช็ก, แบตฯ สำรอง, โทรศัพท์มือถือ, ขวดสเปร์ย และขวดน้ำพลาสติก

จอดรถตากแดดทุกวัน ทําไงดี
หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนำรถจอดตากแดดทุกวันได้ ลองมาดูเคล็ดลับที่อาจทำให้รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายจากรังสียูวี
และแสงแดดได้น้อยลง
1. ใช้ม่านบังแดด
หากไม่สามารถหาที่จอดรถร่ม ๆ ได้ และจำเป็นต้องจอดรถตากแดด ม่านบังแดดเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่คุณควรนำมาใช้ ถึงแม้จะไม่ได้
ปกป้องรถภายนอกได้ แต่ม่านบังแดดสามารถลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารไม่ให้สูงเกินไปได้ ทั้งยังช่วยปกป้องวัสดุและอุปกรณต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารได้ในระดับหนึ่ง
2. หุ้มเบาะที่นั่ง
เบาะรถยนต์ส่วนใหญ่ทำจากหนังหรือวัสดุพีวีซี ที่เมื่อได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์หรืออุณหภูมิภายในรถที่สูงขึ้นย่อมทำให้มีคุณภาพ
ที่เสื่อมลง มีสีที่ซีดจาง และเกิดการแตกลายงาได้ การหุ้มเบาะจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเบาะรถยนต์
3. ผ้าคลุมรถ
หากคุณเป็นคนรักรถที่จำเป็นต้องจอดรถตากแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุก ๆ วัน ขอเพียงแค่มีเวลาสักนิด หลังจากจอดรถเสร็จใช้
ผ้าคลุมรถของคุณก็จะช่วยป้องกันรังสียูวีและแสงแดดได้ เพราะผ้าคลุมรถส่วนใหญ่จะมีการเคลือบสารสะท้อนแสงมาแล้วนั่นเอง
4. เคลือบ แว็กซ์สีรถ
วิธีนี้ไม่ได้ปกป้องสีรถจากแสงแดดได้ 100% แต่ก็ดีกว่าการที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะการลงแว็กซ์หรือเคลือบสีรถจะช่วยปกป้องรถยนต์
จากรังสียูวีได้ในระดับหนึ่ง แต่คุณจะต้องหมั่นลงแว็กซ์เป็นประจำเพื่อให้การปกป้องนี้คงประสิทธิภาพไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
5. ติดฟิล์มที่ตัวรถยนต์
การติดฟิล์มที่ตัวรถหรือเรียกอีกอย่างว่าการ Wrap รถ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นกัน นอกจากจะช่วยป้องกันริ้วรอย หรือ
เศษหินที่อาจกระเด็นมาโดนแล้ว การ Wrap รถ ยังช่วยถนอมสีของรถ มีให้เลือกทั้งแบบสีต่าง ๆ และแบบใส สามารถลอกออกได้เมื่อไม่
ต้องการใช้งานแล้ว ในส่วนของราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของรถยนต์
6. ติดฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มข้นสูง
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลดความร้อนภายในห้องโดยสารหากต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน คือการเลือกติดฟิล์มกรองแสง
ที่มีคุณภาพสูง และมีความเข้มข้นของฟิล์มที่มาก โดยทั่วไปรถที่ออกมาจากศูนย์บริการจะติดฟิล์มกรองแสงที่มีระดับความเข้มประมาณ
40-60% เท่านั้น เราสามารถเพิ่มระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสงเป็น 60-80% ได้เช่นกัน แต่ควรเลือกประเภทของฟิล์มที่มองเห็นได้
อย่างชัดเจนในเวลากลางคืน และฟิล์มที่มีส่วนผสมของสารปรอทตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย
7. มองหาที่ร่มไว้ก่อน
แม้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ในการปฏิบัตินั้นถือว่ายาก เพราะการหาที่จอดรถกลางแจ้งที่มีร่มเงาของสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างเช่น
ตึก หรือต้นไม้นั้น ถือเป็นขุมทรัพย์อย่างหนึ่งที่คนรักรถทุกคนต่างต้องการในสิ่งเดียวกัน ฉะนั้นถ้าคุณมีโอกาส หรือมีเวลาวนรถหาที่จอดร่ม ๆ
ก็ควรทำมันเป็นลำดับแรกเลย เพราะที่จอดร่ม ๆ จะช่วยปกป้องรถของคุณจากแสงแดดได้ดีที่สุดนั่นเอง
https://mydeedees.com/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9C/
|